ประกันทอง พร้อมรองรับการเติบโตของธุรกิจร้านทอง ด้วยความเชี่ยวชาญเฉพาะ

ตลอดสิบปีที่ผ่านมา มูลค่าทองคำในประเทศไทย เติบโตขึ้นถึง 35% ภาคกลางยืนหนึ่งร้านทองมากที่สุดในประเทศ ถึงเวลาแล้วที่ประกันทองจะมาช่วยยกระดับความมั่นคงของธุรกิจ

หากกำลังลังเลว่าถึงเวลาขยับขยายธุรกิจร้านทองในปีนี้หรือไม่? เรามีแนวโน้มในภาคเศรษฐกิจมาฝากคุณ
ต้นปีที่ผ่านมา สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้เผยแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงปีพ.ศ. 2566 ที่ได้พาเราไปดูภาพรวมของเศรษฐกิจไทย โดยย้อนกลับไปในช่วงสองไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 เมื่อภาคธุรกิจและประชาชนกำลังอยู่ในสภาวะฟื้นตัวจากวิกฤติเศรษฐกิจ รวมทั้งปีเศรษฐกิจไทยจึงมีการขยายตัวถึงร้อยละ 2.6 เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 1.5 พร้อมการขยายเร่งตัวด้านการใช้จ่ายของประชาชน

ปีที่แล้ว การอุปโภคบริโภคของภาคเอกชน ขยายตัวได้ในเกณฑ์ดี อยู่ที่ร้อยละ 5.7 โดยที่การลงทุนรวมในไตรมาสสุดท้าย ขยายตัวร้อยละ 3.9 แต่ไตรมาสก่อนหน้า การลงทุนโดยรวมนั้นขยายอยู่ที่ร้อยละ 5.5 โดยธุรกิจที่ขายตัวสูงอย่างน่าสนใจ คือบริการโรงแรมและอาหาร

เป็นสัญญาณที่ดีว่าการท่องเที่ยวกลับมาแล้ว หลังซบเซาด้วยพิษเศรษฐกิจจากโควิดมาเป็นเวลากว่าสองปี นั่นทำให้เศรษฐกิจโดยรวมในปีที่แล้วขยายตัวร้อยละ 2.6 โดย GDP ในประเทศไทย ได้ส่งท้ายปีอยู่ที่ 17.4 ล้านล้านบาท

แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2566 นี้ จึงเหมาะกับการเริ่มต้นขยับขยายธุรกิจ เพราะคาดว่าจะขยายตัวอยู่ในช่วงร้อยละ 2.7 – 3.7! โดยมาจากการเติบโตของการใช้จ่ายเพื่ออุปโภคบริโภคของประชาชน เสริมด้วยการลงทุนรวม

ถ้าเช่นนั้น ในเวลานี้ จะมีอะไรเหมาะและตอบโจทย์ด้านการลงทุนของมากกว่าทองคำ?

Demand ไม่มีตก ตัวช่วยผ่านทุกวิกฤต

ทองคำคือสินทรัพย์ทางการเงินสำคัญของรัฐบาลทั่วโลก รวมถึงธนาคารกลาง เพราะสามารถป้องกันความเสี่ยงในด้านเงินกู้ และเป็นตัวบ่งชี้สภาวะทางเศรษฐกิจ

ไม่ใช่เพียงแค่ประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทั่วโลกที่แนวโน้มทองคำจะเพิ่มถึง 28% ในไตรมาสที่สามของปี ดังนั้นอาจจะเรียกได้ว่า “ปีทอง” ของ “ทองคำ” กำลังกลับมาอีกครั้ง หากกำลังลังเลที่จะขยับขยายสาขา หรือลงทุนเพื่อธุรกิจร้านทอง ไม่ว่าจะเป็นการขายในประเทศหรือส่งออก ปีนี้จะเป็นอีกปีที่คุ้มค่าการลงทุนของคุณแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ประเทศไทยกำลังอยู่ในการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล

เทียบกับสิบปีที่แล้วอย่างปี 2556 ปีนี้ มูลค่าทองคำในประเทศไทย เติบโตขึ้นถึง 35% เลยทีเดียว
เมื่อมองในระดับภูมิภาคอาเซียนแล้ว ประเทศไทยมีความต้องการซื้อทองคำสูงเป็นอันดับสามในภูมิภาค

และหากเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่พรมแดนติดกัน ไทยจึงนับเป็นหัวเรือใหญ่ทั้งความต้องการซื้อและขายกันเลยทีเดียว

ถึงเวลาลงทุนด้วยร้านทอง

จากโอกาสที่เพิ่มขึ้นด้วยแนวโน้มในภาคธุรกิจ ถึงเวลาสำคัญที่คุณจะได้ขยับขยายธุรกิจอย่างครบวงจรกันแล้ว แต่จะลงทุนในพื้นที่ไหน? เรามีตัวช่วยคือสถิติจาก “สมาคมค้าทองคำ” ด้วยตัวเลขของสมาชิกในแต่ละภูมิภาคเพื่อช่วยในการตัดสินใจด้านทำเลให้กับคุณ

ภาคกลางครองพื้นที่ความหนาแน่นของจำนวนร้านทอง นำทัพด้วยเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานครฯ ที่มีร้านทองเป็นจำนวนกว่า 460 ร้าน ตามด้วยสมุทปราการที่ 114 ร้าน

อันดับสามคือเป็นจังหวัดชลบุรี ที่มีจำนวนร้านทองอยู่ที่ 74 ร้าน เชียงใหม่ และเชียงราย เป็นตัวแทนจังหวัดจากภาคเหนือที่มีสมาชิกร้านทองอยู่ที่ 66 และ 64 ร้านตามลำดับ อันดับห้าคือจังหวัดสงขลา ด้วยจำนวน 60 ร้าน

สรุปรวมในแต่ละภูมิภาคดังนี้

ภาคใต้ มีร้านทองในสมาคมทองคำ จำนวน 293 ร้าน ใน 14 จังหวัด
ภาคกลาง มีร้านทองในสมาคมทองคำ จำนวน 1012 ร้าน ใน 22 จังหวัด
ภาคเหนือ มีร้านทองในสมาคมทองคำ จำนวน 330 ร้าน ใน 17 จังหวัด
ภาคตะวันออก มีร้านทองในสมาคมทองคำ จำนวน 110 ร้าน ใน 4 จังหวัด
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีร้านทองในสมาคมทองคำ จำนวน 173 ร้าน ใน 4 จังหวัด

หากลองวิเคราะห์ด้วยตัวเลขแล้ว พื้นที่ที่มีจำนวนร้านทองเป็นจำนวนมากจะอยู่ในจังหวัดที่เปรียบเสมือนหัวใจของบริการต่าง ๆ ในแต่ละภูมิภาค เช่นเชียงใหม่ที่เป็นศูนย์กลางของภาคเหนือ และสงขลาที่เป็นจังหวัดยอดฮิตในการท่องเที่ยวทางภาคใต้ ทั้งจากชาวไทยและเพื่อนบ้านจากมาเลเซีย

แต่อีกหนึ่งข้อน่าสังเกตคือร้านทองยังเติบโตในภูมิภาคที่มีโรงงานเป็นจำนวนมาก เช่นในจังหวัดชลบุรี และนครราชสีมา นั่นเพราะคนมีกำลังซื้อ และเต็มไปด้วยแรงงานจากประเทศต่าง ๆ
แต่จังหวัดที่เป็นพรมแดนระหว่างประเทศไทยและเพื่อนบ้านอย่างสระแก้ว กลับมีร้านทองเพียงหนึ่งร้านเท่านั้นที่เป็นสมาชิกสมาคมค้าทองคำ

เอาล่ะ มองเห็น “ทำเล” ในการเปิดร้านทองกันแล้วหรือยัง?

รักษามูลค่า ประกันทองคำ

เมื่อเลือกทำเลเปิดร้านทองได้แล้ว สิ่งต่อมาที่คุณไม่ควรมองข้าม คือการยกระดับความปลอดภัยด้วย การทำประกันทอง เพื่อรักษาความมั่นคงให้กับธุรกิจ

การเลือกประกันทองคำให้กับธุรกิจของคุณ ควรยึดหลักสำคัญ ด้วยหลัก 2 ช.

1. เชี่ยวชาญ ในธุรกิจ

ธุรกิจทองคำคือธุรกิจที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง ด้วยมูลค่าที่ผันผวน และความต้องการเฉพาะของร้านทอง ดังนั้นการเลือกทำประกันกับผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจโดยเฉพาะจึงเป็นคำตอบ

2.ชดเชยเยียวยา แบบครบวงจร

ธุรกิจร้านทอง คือธุรกิจที่มีความเสี่ยงเฉพาะอย่างการโจรกรรมที่ตกเป็นข่าวใหญ่อยู่เรื่อย ๆ ดังนั้นการทำประกันจึงไม่ควรครอบคลุมเพียงแค่มูลค่าความเสียหายด้านทรัพย์สินเท่านั้น แต่ควรครอบคลุมความเสียหายของ “ชีวิต”
ประกันทองของ AEG พร้อมบริการประกันโดยไม่จำกัดเบี้ยประกัน เหมาะสมสำหรับธุรกิจทองคำที่มีความผันผวนแบบวันต่อวัน เสริมทัพด้วยการให้บริการปรึกษาอย่างใกล้ชิด ชี้จุดโหว่ และเสริมจุดแข็งให้กับคุณ

ประกันภัยสำหรับร้านทอง ครอบคลุม

ความเสียหายต่อทองที่เกิดจากการชิงทรัพย์ โจรกรรม ปล้นทรัพย์ หรือวิ่งราวทรัพย์โดยที่มีหลักฐานจากกล้องวงจรปิด
ความเสียหายต่อตัวอาคาร ตู้นิรภัย กระจก เฟอร์นิเจอร์ เครื่องตกแต่ง ติดตั้งตรึงตราเครื่องใช้และอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ตู้สินค้าทองคำ เครื่องชั่ง ไปจนถึงกล้องวงจรปิด
ผลประโยชน์การเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา หรือทุพพลภาพถาวร
ผลประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาล
เพิ่มการเติบโตให้กับธุรกิจ พร้อมยกระดับความมั่นคงด้วยบริการด้านความปลอดภัย
ติดต่อ AEG