คดีลักทรัพย์ยังคงเป็นคดีที่เกิดขึ้นบ่อยอยู่เสมอ การจับขโมยคือหนึ่งในสิ่งที่เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณะภัยต้องทำอยู่เสมอ และคงไม่สนุกแน่ ๆ หากโกดังสินค้าถูกปล้น การยกระดับโกดังด้วยการติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV คุณภาพสูงอาจไม่เพียงพอ แต่ต้องปิดครบจบทุกวงจรด้วยระบบสัญญาณกันขโมย
ย้อนกลับไปช่วงต้นปี เกิดคดีลักทรัพย์ที่สะเทือนขวัญไปทั่วโลก เมื่อ “คดีปล้นทอง” ครั้งที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งเกิดขึ้นที่โกดังสนามบิน รวมมูลค่าทรัพย์สินสูญกว่า 500 ล้านบาท ที่ประเทศแคนาดา
คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อเครื่องบินขนสินค้าได้มาถึงสนามบินในช่วงค่ำ ก่อนจะถูกเคลื่อนย้ายไปยังโกดังเก็บของ แต่ทว่าการปล้นครั้งใหญ่ที่สุดของแคนาดากลับเกิดขึ้น เมื่อทองคำในโกดังสูญหายไปทั้งกล่องบรรจุสิ่งของขนาด 0.46 ตารางเมตร!
ทางตำรวจแคนาดาระบุว่า คดีนี้เป็นคดีการปล้นทองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคดีหนึ่งของประเทศ
ทางตำรวจได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนจนถึงทุกวันนี้ แต่ไม่มีการพบทองที่ว่าจนถึงทุกวันนี้ และยังไม่มีการจับขโมยที่ปล้นทองอย่างอุกอาจคนไหนได้เลย
แม้ว่าโกดังสนามบินจะมีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา ที่ว่าไม่ใช่ใครทุกคนจะสามารถเข้าถึงโกดังได้ แต่การรักษาความปลอดภัยจากทางสายการบินแคนาดานั้นกลับกลายเป็นช่องโหว่ที่บริษัทรักษาความปลอดภัยได้กล่าวว่า สายการบินไม่สามารถให้บริการตู้เซฟนิรภัยได้อย่างรัดกุมมากพอ รวมถึงไม่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดอย่างครบถ้วน และไม่มีการเดินลาดตระเวนเพื่อรักษาสิ่งของในโกดัง
นั่นหมายความว่า สิ่งที่โกดังขาดไป คือระบบสัญญาณกันขโมย และระบบรักษาปลอดภัยของโกดังสินค้ายังไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่นั่นเอง
สิ่งนี้กลายเป็นตัวกระตุ้นให้โกดังสินค้าทั่วโลกต้องหันมาให้ความสำคัญกับโกดังสินค้าของตนเองกันมากขึ้น เพราะโกดังสินค้านี้ไม่ได้บรรจุมูลค่าของทรัพย์สินเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นสถานที่สำคัญในการเก็บความลับของบริษัทอีกด้วย
โกดังคือ สถานที่สำหรับใช้ในการจัดเก็บสินค้าหรือวัสดุ เพื่อรอเข้าสู่กระบวนการผลิตหรือรอจัดส่งให้กับลูกค้า หรือคลังสินค้านั่นเอง โกดังนั้นอาจตั้งอยู่ใกล้กันกับท่าเรือ หรือสนามบิน เพื่อเอื้อให้เกิดความสะดวกต่อการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ หรืออาจตั้งอยู่ในเขตปริมณฑล ใกล้กันกับสำนักงานใหญ่ของธุรกิจ
ความเข้าใจผิดของโกดังคือ อาจเป็นที่ที่เก็บเพียงสินค้าที่ต้องสต็อกเตรียมส่งให้ลูกค้าเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วโกดังยังสามารถจัดเก็บวัสดุสำหรับขั้นตอนการผลิตสินค้าได้อีกด้วย
คำตอบคือการรักษาความปลอดภัยอย่างครบวงจร และต้องคิดถึง Worst Case Scenario หรือสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดกับโกดัง นั่นหมายถึง โกดังของคุณควรมีการรักษาความปลอดภัยด้วยคน และอุปกรณ์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีระดับสูง
สิ่งที่จำเป็นมากที่สุด จึงเป็นระบบสัญญาณกันขโมยอย่างครบวงจร ที่หัวใจสำคัญไม่ได้มีเพียงกล้อง CCTV เพียงอย่างเดียว
แน่นอน กล้องวงจรปิดสามารถเป็นตัวช่วยสอดส่องความเป็นไปของการเคลื่อนไหวในพื้นที่โกดัง และเป็นการเก็บหลักฐานสำคัญเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน แต่อาจต้องใช้เวลาจึงจะสามารถจับคนร้ายหรือจำกัดความเสียหายในสถานที่ได้
แล้วต้องทำอย่างไรจึงจะจับขโมยได้อย่างทันท่วงที?
คำตอบของการเสริมความแกร่งของโกดังให้ปลอดภัยจากคดีลักทรัพย์ คือการติดตั้งระบบสัญญาณเตือนกันขโมยคุณภาพสูง ที่จะตรวจสอบทุกความเคลื่อนไหว
สัญญาณเตือนกันขโมย จะตรวจจับความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ และแจ้งเตือนทันที ไม่ใช่เพียงเพื่อให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ได้รีบเข้าล้อมจับขโมยผู้ไม่หวังดีเท่านั้น แต่สัญญาณเตือนยังสร้างความตกใจให้กับขโมย และแจ้งให้ผู้ดูแลอาคารได้ทำการล็อคอาคารได้ทันที เพื่อไม่ให้ขโมยหนีไปได้
สัญญาณเตือนกันขโมยจาก AEG ยังทำงานด้วยระบบ Tri-Sensor ตรวจจับความเคลื่อนไหว อุณหภูมิ และมวลน้ำหนักไปพร้อม ๆ กัน ให้คุณมั่นใจได้เลยว่าทุกเสียงเตือนไม่มีสัญญาณเท็จอย่างแน่นอน เพื่อยกระดับโกดังสินค้าให้ปลอดภัยอย่างสูงสุด
เหตุไม่คาดฝันอาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด แม้ในที่ที่ปลอดภัยที่สุด การยกระดับความปลอดภัยให้กับโกดังจึงเป็นเรื่องที่คุณต้องไม่มองข้าม หากยังไม่มั่นใจว่าจะติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยแบบไหนให้โกดังบ้าง ที่ AEG เราพร้อมให้คำปรึกษากับคุณอย่างไม่มีกั๊ก