EN | TH | CN

รวม 5 เทคนิคเพิ่มความปลอดภัยในโรงงานอย่างมีประสิทธิภาพ

การทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้น สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องให้ความใส่ใจก็คือการวางรากฐานของธุรกิจให้มีความมั่นคงแข็งแรง สามารถรับมือกับทุกปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหนึ่งในรากฐานสำคัญที่ไม่ควรละเลยก็คือ การวางระบบความปลอดภัยในโรงงานอย่างมีคุณภาพ เพื่อช่วยให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัย ป้องกันการเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของธุรกิจได้ 

สำหรับใครที่อยากรู้ว่า ความปลอดภัยภายในโรงงานคืออะไร ทำไมถึงต้องให้ความสำคัญกับระบบรักษาความปลอดภัยในโรงงาน และมีวิธีเพิ่มความปลอดภัยในโรงงานอย่างไร หาคำตอบได้ที่บทความนี้เลย

ความปลอดภัยในโรงงาน คืออะไร?

ความปลอดภัยในโรงงาน คือ การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานภายในโรงงานที่ปลอดภัยจากอุบัติภัยต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับพนักงาน ทั้งในด้านร่างกายและทรัพย์สิน รวมถึงป้องกันการเกิดความเสียหายต่อระบบการทำงานต่าง ๆ ในโรงงาน ไม่ว่าจะเป็น เครื่องจักร ระบบไฟฟ้า ระบบขนส่ง หรืออุปกรณ์เก็บสารเคมี เป็นต้น

สาเหตุที่ทำให้ไม่เกิดความปลอดภัยในโรงงาน

สาเหตุที่ส่งผลกระทบต่อระดับความปลอดภัยภายในโรงงานนั้น จะแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ ดังนี้

  • สาเหตุจากการกระทำของพนักงาน : เช่น ใช้เครื่องจักรไม่ถูกวิธี มีความประมาท เหม่อลอย ชอบเสี่ยง ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบของโรงงาน ไม่ใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล หรือทำงานโดยที่สภาพร่างกายและจิตใจไม่พร้อม เป็นต้น
  • สาเหตุจากอุปกรณ์เครื่องจักรและโครงสร้างโรงงานไม่มีคุณภาพ : เช่น มีการวางแผนผังไม่ถูกต้อง พื้นโรงงานขรุขระ พื้นโรงงานมีเศษวัสดุที่ทำให้เสี่ยงลื่นล้มได้ง่าย อุปกรณ์เครื่องจักรไม่มีคุณภาพ หรือระบบไฟฟ้าชำรุด เป็นต้น

ระบบความปลอดภัยในโรงงาน มีความสำคัญอย่างไร?

โรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ จะมีจำนวนพนักงานค่อนข้างมาก รวมถึงอุปกรณ์เครื่องจักร และสินค้าต่าง ๆ ที่มีมูลค่าสูง การวางระบบความปลอดภัยในโรงงานอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินได้นั่นเอง

5 เทคนิคเพิ่มความปลอดภัยในโรงงานอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากการสร้างโรงงานให้ถูกต้องตามมาตรฐานสากลอย่าง GMP และ HACCP ที่ต้องทำเป็นปกติแล้ว การดูแลพนักงานและโรงงานด้วย 5 เทคนิคต่อไปนี้ จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในโรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. อบรมการปฏิบัติงานให้ชัดเจน

ดังที่กล่าวไปในข้างต้นว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้การทำงานในโรงงานไม่ปลอดภัย ส่วนหนึ่งก็มาจากตัวของพนักงานเองที่ขาดความระมัดระวัง ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงควรจัดอบรมพนักงานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้พวกเขาตระหนักถึงความระมัดระวังในการทำงาน รวมถึงอบรมขั้นตอนการทำงานกับเครื่องจักรอย่างปลอดภัยด้วย

2. ดูแลรักษาพื้นที่ปฏิบัติงานอยู่เสมอ

ผู้ประกอบการจะต้องวางผังโรงงานให้เหมาะสม มีแสงสว่างที่เพียงพอ มีอากาศที่ถ่ายเท ที่สำคัญจะต้องหมั่นตรวจสอบเครื่องมือที่และเครื่องจักรที่ใช้ในการทำงานอย่างสม่ำเสมอ โดยทุกอย่างจะต้องอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน ไม่ได้รับความเสียหาย หรือชำรุด และถ้าหากพบปัญหาก็ควรที่จะรีบแก้ไข้ทันที ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ

3. ใส่อุปกรณ์ป้องกันหรือแต่งกายให้เหมาะสม

อีกสิ่งหนึ่งที่จะต้องเตรียมให้กับพนักงานอย่างครบครันก็คืออุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (Personal Protective Equipment : PPE) หรือที่นิยมเรียกกันว่า “อุปกรณ์เซฟตี้” ซึ่งเป็นอุปกรณ์สวมใส่ที่จะช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด

ตัวอย่างอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล PPE เช่น

  • หน้ากากนิรภัย เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันระบบหายใจจากสารเคมี และฝุ่นละอองต่าง ๆ
  • แว่นตานิรภัย เป็นอุปกรณ์ป้องกันดวงตาจากสารเคมี เศษไม้ เศษโลหะ และอื่น ๆ มีทั้งแบบครอบตาและหน้ากากเชื่อม
  • ถุงมือนิรภัย มีหลายชนิด หลายรูปแบบ เช่น ถุงมือใยหิน สำหรับป้องกันความร้อน ถุงมือยาง สำหรับทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้า หรือถุงมือหนังเสริมใยเหล็กสำหรับงานหลอม หรือถุงโลหะ เป็นต้น
  • รองเท้านิรภัย อุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อลดแรงกระแทกและป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับนิ้วเท้า เท้า และข้อเท้าโดยเฉพาะ มีหลายรูปแบบ เช่น รองเท้านิรภัยป้องกันสารเคมีที่ทำจากยางธรรมชาติ หรือรองเท้านิรภัยแบบพื้นไม้ที่ใช้ในโรงงานที่พื้นเปียกชื้นตลอดเวลา
  • หมวกนิรภัย ที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง หรืองานที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้าแรงสูง

4. เตรียมความพร้อมอยู่เสมอ

เป็นอีกสิ่งที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยภายในโรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผู้ประกอบการจะต้องปรับแต่งสถานที่ทำงานในที่ที่ใกล้เคียงกับแหล่งกำเนิดอันตรายให้มีความปลอดภัยมากขึ้น โดยที่ไม่ต้องรอให้เกิดอันตรายก่อน เช่น อาจใช้เครื่องกำบังมาครอบเครื่องจักรบริเวณที่มีจุดหนีบ เพื่อไม่ให้พนักงานสามารถเข้าไปอยู่ใกล้บริเวณที่อันตรายได้ เป็นต้น

5. เลือกทำประกันวินาศภัยเพื่อโรงงานโดยเฉพาะ

แม้ว่าจะเตรียมป้องกันรอบคอบแค่ไหน แต่ขึ้นชื่อว่าอุบัติเหตุก็สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ในทุกที่ทุกเวลา ดังนั้นอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้ามก็คือการทำประกันวินาศภัยเพื่อคุ้มครองความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับโรงงาน อาคาร และตัวพนักงานเอง ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการมีทุนสำรองในการรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ทำให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้นั่นเอง

แนะนำประกันภัยและระบบดูแลรักษาความปลอดภัยในโรงงานจาก AEG

จะเห็นได้ว่า การวางระบบความปลอดภัยในโรงงานอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถทำได้ไม่ยาก และช่วยสร้างความมั่นคงทางธุรกิจในระยะยาวได้จริง ดังนั้นผู้ประกอบการจึงควรให้ความสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยตั้งแต่แรก ซึ่งทาง AEG พร้อมช่วยคุณวางระบบดูแลรักษาความปลอดภัยของโรงงานอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น ระบบ AEG Surveillance สัญญาณกันขโมยและผู้บุกรุกพร้อมทีมเฝ้าระวังภัยตลอด 24 ชม., ระบบสัญญาณเตือนอัคคีภัย, ระบบกล้องวงจรปิด CCTV Networks, ระบบควบคุมการเข้า – ออกอัตโนมัติ รวมไปถึงประกันวินาศภัยสำหรับโรงงานโดยเฉพาะที่คุ้มครองความเสียหายอย่างครอบคลุม ออกกรมธรรม์โดยตลาดประกันที่ใหญ่ที่สุดในลอนดอน หากสนใจ สามารถขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านประกันภัยและระบบดูแลรักษาความปลอดภัยในโรงงานของเราได้เลย รับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

CTA - AEG Blog on website
CTA - AEG Blog Website (3)
CTA - AEG Blog Website (5)

ติดตามหัวข้ออื่น ๆ

ติดกล้องวงจรปิดด้วยตัวเองกับบริษัทแบบไหนถึงจะดีกว่ากัน

ติดกล้องวงจรปิดด้วยตัวเองกับบริษัทแบบไหนถึงจะดีกว่ากัน

By admin.aeginc | 5 เมษายน 2023 | ระบบรักษาความปลอดภัย
Read More
ทำความรู้จักตู้เซฟนิรภัย-ก่อนเลือกใช้งานให้ถูกประเภท

ทำความรู้จักตู้เซฟนิรภัย ก่อนเลือกใช้งานให้ถูกประเภท

By admin.aeginc | 5 กันยายน 2024 | ระบบรักษาความปลอดภัย
Read More
เลือกสัญญาณกันขโมยอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

เลือกสัญญาณกันขโมยอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

By admin.aeginc | 25 ธันวาคม 2023 | ข่าวสารและอัปเดท
Read More