6 จุดสำคัญที่ควรติดเครื่องดักจับควันในทุกอาคาร

หลายคนอาจจะเคยได้ยินประโยคที่ว่า “โจรปล้นบ้านสิบครั้ง ไม่เท่าไฟไหม้ครั้งเดียว” เราขอยืนยันอีกครั้งเลยว่าประโยคที่ว่านี้ เป็นประโยคที่ไม่ได้มีการกล่าวอ้างเกินจริงแต่อย่างใด สำหรับอาคารบ้านเรือนแล้ว เราอยากให้ทุกคนให้ความสำคัญกับเครื่องดักจับควันเป็นอันดับต้น ๆ เพราะอุปกรณ์ชนิดนี้ เป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยคุณรับมือจากเหตุเพลิงไหม้ได้เป็นอย่างดี และเพื่อให้คุณรู้จัก สัญญาณเตือนภัย ประเภทนี้มากยิ่งขึ้น นี่คือข้อมูลที่ต้องรู้เอาไว้

เครื่องดักจับควัน (Smoke Detector) คืออะไร

“เครื่องดักจับควัน” หรือ “Smoke Detector” เป็นอุปกรณ์ทางด้านความปลอดภัย ที่จะทำการตรวจจับอนุภาคควันไฟที่เกิดขึ้น และช่วยส่งสัญญาณให้ผู้ที่อยู่ภายในอาคารสามารถทราบถึงความผิดปกติได้ โดยการทำงานของอุปกรณ์ชนิดนี้ จะเป็นการส่งสัญญาณเตือนภัยด้วยลักษณะของเสียง และแสง เพื่อให้ผู้ที่อยู่ด้านในสามารถที่จะอพยพเคลื่อนย้ายตัวเองออกไปได้อย่างทันท่วงที

ทำไมเครื่องดักจับควัน ถึงจำเป็นในทุกอาคาร

อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วว่า อุปกรณ์ทางด้านความปลอดภัยประเภทนี้ จะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยส่งสัญญาณเตือน ทันทีเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ เพื่อการทำให้ผู้ที่อยู่ภายในอาคารสามารถอพยพได้ไว และยังสามารถที่จะลดความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ให้ลดน้อยลง เพราะเมื่อรู้ตัวเร็วก็จะสามารถดับไฟได้ทัน สามารถป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามไปยังที่อื่น ๆ ได้ หรืออธิบายง่าย ๆ อุปกรณ์นี้จะสามารถช่วยลดความเสียหายของทั้งชีวิต และทรัพย์สินมีค่าได้นั่นเอง

หลักการทำงานของเครื่องดักจับควัน (Smoke Detector)

หลักการทำงานของ Smoke Detector คือการตรวจจับอนุภาคควันไฟ โดยจะแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดตามลักษณะของการตรวจจับ ได้แก่

แบบ Ionization : มีการทำงานด้วยการวัดค่า หรือการตรวจจับโมเลกุลในอากาศ ด้วยแผ่นชาร์จประจุ เมื่อมีการเผาไหม้เกิดขึ้น เมื่อความชื้นและความกดดันในอากาศเปลี่ยน จะสามารถตรวจจับความผิดปกติได้

แบบ Photoelectric : ด้านในจะมีหลอดไฟ LED ที่จะส่องไปยังอุปกรณ์ไวต่อแสง เมื่อมีการเผาไหม้เกิดขึ้น และมีควันเข้าไปบังแสงที่ส่องไปยังวัตถุไวแสง จะสามารถตรวจจับความผิดปกติได้

6 จุดติดตั้งเครื่องดักจับควัน เพื่อป้องกันเหตุเพลิงไหม้

1. บริเวณที่จัดเก็บวัตถุไวไฟ

บริเวณแรกที่เหมาะสำหรับการติดตั้งเครื่องดักจับควัน คือบริเวณที่เป็นสถานที่จัดเก็บวัตถุไวไฟ เพราะบริเวณนี้เป็นบริเวณที่หากมีเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้น ไฟจะลามอย่างรวดเร็ว และอาจสร้างความเสียหายจนไม่สามารถประเมินค่าได้ทีเดียว

2. บริเวณที่มีการใช้เชื้อเพลิง

บริเวณที่มีการใช้เชื้อเพลิง อาทิเช่น ถังแก๊ส, เศษไม้ หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการติดไฟชนิดต่าง ๆ ล้วนเป็นบริเวณที่เสี่ยงต่อการเกิดเหตุเพลิงไหม้ได้ง่าย ดังนั้นจึงเป็นบริเวณแรก ๆ ที่ควรมีการติดตั้งเครื่องดักจับควันเอาไว้

3. บริเวณที่มีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า

บริเวณที่มีการใช้เครื่องไฟฟ้า หรือบริเวณใกล้จุดร่วมสายไฟ เป็นบริเวณที่เราเองก็ขอแนะนำว่าไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด เนื่องจากเป็นจุดที่มักจะมีความร้อนเกิดขึ้น เสี่ยงต่อการเกิดประกายไฟได้ง่าย หากติดตั้งอุปกรณ์เอาไว้ที่บริเวณนี้ จะสามารถป้องกันไม่ให้ไฟลามไปยังจุดอื่น ๆ ภายในอาคารบ้านเรือนได้

4. บริเวณจุดอับอากาศ

บริเวณที่เป็นจุดอับอากาศ หรือบริเวณที่ไม่มีการไหลเวียนของอากาศ จะทำให้เกิดการสะสมแก๊ส และความร้อน ทำให้ง่ายต่อการเกิดเหตุเพลิงไหม้ ดังนั้นบริเวณนี้จึงเป็นบริเวณที่แนะนำว่าควรทำการติดตั้ง Smoke Detector เอาไว้เพื่อความปลอดภัย

5. บริเวณจัดเก็บอุปกรณ์ดับเพลิง

ถึงแม้ว่าบริเวณจัดเก็บอุปกรณ์ดับเพลิง จะเป็นบริเวณที่ไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุเพลิงไหม้ หรือมีความเสี่ยงน้อยกว่าบริเวณอื่น ๆ แต่การติดตั้งเครื่องดักจับควันเอาไว้ที่บริเวณนี้ จะช่วยทำให้ทราบถึงเหตุฉุกเฉินได้ไว อีกทั้งยังช่วยให้สามารถเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้ได้เร็ว ก่อนที่จะเกิดการลุกลาม

6. บริเวณโถงทางเดิน 

จุดสุดท้ายที่แนะนำว่าควรทำการติดตั้ง Smoke Detector เอาไว้ คือบริเวณโถงทางเดิน เนื่องจากบริเวณนี้เป็นบริเวณที่มีโอกาสตรวจจับควันในส่วนต่าง ๆ ของอาคารได้เป็นอย่างดี การติดตั้งอุปกรณ์เอาไว้ที่บริเวณนี้ สามารถช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้

สรุปบทความ

เหตุเพลิงไหม้ เป็นเหตุการณ์ที่ไม่สามารถคาดเดาเอาไว้ได้ล่วงหน้า อีกทั้งยังเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความเสียหายอย่างมหาศาลได้ หากไม่อยากเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สิน “เครื่องดักจับควัน” คืออุปกรณ์ที่สามารถช่วยลดความเสี่ยง และลดความเสียหายได้ แต่นอกจากการติดตั้ง Smoke Detector แล้ว การทำประกันอัคคีภัยติดเอาไว้ก็ถือเป็นอีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน สำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับการทำ ประกันอัคคีภัยที่ไหนดี สามารถอ่านเพิ่มได้ที่เว็บไซต์ AEG ของเรา