EN | TH | CN

รวม 10 สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้

เหตุไฟไหม้เป็นอันตรายร้ายแรงที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ทั้งในบ้าน อาคาร หรือสถานที่สาธารณะ การรู้วิธีรับมืออย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้รอดชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม มีหลายสิ่งที่คนมักเข้าใจผิด ซึ่งอาจนำไปสู่อันตรายที่รุนแรงยิ่งขึ้น ไปดูกันว่า 10 สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ เพื่อให้คุณรับมือได้อย่างปลอดภัยที่สุดมีอะไรบ้าง 

ความสำคัญของการรู้วิธีรับมือกับเหตุไฟไหม้

เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้มักจะทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน นอกจากนี้การเกิดเพลิงไหม้ยังทำให้เกิดความเสี่ยงต่อชีวิตอีกด้วย ดังนั้นความสำคัญของการปฏิบัติตัวเมื่อเกิดเพลิงไหม้จึงสำคัญมาก ๆ หากปฏิบัติตัวได้ถูกต้องตามขั้นพื้นฐานก็จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดอันตรายได้

10 สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้

เหตุไฟไหม้เป็นภัยร้ายแรงที่ต้องรับมืออย่างถูกวิธี การรู้ว่าอะไรไม่ควรทำในสถานการณ์เช่นนี้สำคัญไม่แพ้การรู้ว่าควรทำอะไร เพื่อความปลอดภัยของคุณและคนรอบข้าง มาดูกัน 10 สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อเผชิญเหตุไฟไหม้มีอะไรบ้าง 

1. อย่าตื่นตระหนก

เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้อย่างแรกที่ต้องมีคือสติ อย่าตื่นตระหนกเกินไป เพราะการตื่นตกใจอาจจะทำให้คุณเกิดอันตรายได้ เช่น วิ่งลงบันไดเร็วเกินไป ตัดสินใจใช้ลิฟต์ เมื่อเกิดเพลิงไหม้ให้ควบคุมสติให้ดีแล้วปฏิบัติตามขั้นตอนพื้นฐาน

2. อย่าพยายามดับไฟด้วยน้ำในกรณีไฟไหม้น้ำมันหรือไฟฟ้า

การเกิดเหตุเพลิงไหม้แต่ละประเภทนั้นมีรูปแบบและวิธีการดับไฟที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดไฟไหม้จากน้ำมันหรือไฟฟ้า การใช้น้ำดับไฟในกรณีเหล่านี้อาจเป็นอันตรายอย่างยิ่ง น้ำไม่สามารถดับไฟที่เกิดจากน้ำมันได้ แต่จะทำให้เปลวไฟกระจายตัวมากขึ้น ส่วนกรณีไฟไฟฟ้า น้ำอาจนำไฟฟ้าและทำให้เกิดไฟฟ้าช็อตได้ ดังนั้น ควรใช้อุปกรณ์ดับเพลิงที่เหมาะสม เช่น ถังดับเพลิงชนิด C สำหรับไฟไฟฟ้า หรือผงเคมีแห้งสำหรับไฟน้ำมัน

3. อย่าเปิดประตูโดยไม่ตรวจสอบความร้อน

อย่าเปิดประตูโดยไม่ตรวจสอบความร้อน

การตรวจสอบความร้อนของประตูเป็นขั้นตอนสำคัญในการเอาตัวรอดจากเหตุไฟไหม้ ก่อนเปิดประตู ให้ใช้หลังมือแตะที่ประตูและลูกบิด หากรู้สึกร้อน แสดงว่าไฟอาจลามมาถึงอีกด้านแล้ว การเปิดประตูในสถานการณ์นี้จะทำให้ออกซิเจนไหลเข้าไป ซึ่งอาจทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิต ดังนั้นไม่ควรเปิดประตู แต่ให้หาทางออกอื่นหรือรอความช่วยเหลือในห้องที่ปลอดภัย

4. อย่าใช้ลิฟต์

การใช้ลิฟต์ในเหตุไฟไหม้เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาด เพราะระบบไฟฟ้าอาจขัดข้องทำให้ลิฟต์ค้าง คุณอาจติดอยู่ในลิฟต์ท่ามกลางควันไฟและความร้อน นอกจากนี้ ลิฟต์อาจพาคุณไปยังชั้นที่กำลังเกิดเพลิงไหม้ ทำให้เสี่ยงอันตรายมากขึ้น ดังนั้นควรใช้บันไดหนีไฟแทน เพราะออกแบบมาเพื่อการอพยพโดยเฉพาะ มีระบบระบายอากาศและประตูทนไฟ ช่วยให้หนีออกจากอาคารได้อย่างปลอดภัย

5. อย่าหยุดเพื่อเก็บของมีค่า

ในสถานการณ์ไฟไหม้ ทุกวินาทีมีค่า การหยุดเพื่อเก็บของมีค่าเพียงเสี้ยววินาทีอาจทำให้คุณเกิดอันตรายได้ เพราะควันไฟสามารถแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ทำให้การหายใจและการมองเห็นเป็นไปได้ยาก การพกพาสิ่งของมากเกินไปจะทำให้เคลื่อนที่ช้าลง อาจสะดุดล้ม ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือการออกจากพื้นที่อันตรายโดยเร็วที่สุด 

6. อย่ากลับเข้าไปในอาคารที่กำลังไฟไหม้

อย่ากลับเข้าไปในอาคารที่กำลังไฟไหม้

เมื่อออกมาจากอาคารที่เกิดเหตุไฟไหม้แล้ว อย่ากลับเข้าไปโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปช่วยคนอื่นหรือการเข้าไปเก็บของ ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ดับเพลิง เพราะร่างกายของคุณได้รับควันมาเป็นจำนวนหนึ่งแล้ว ถ้าหากเข้าไปช่วยคนอื่นอีก เสี่ยงมากที่คุณจะล้มหมดสติจนเกิดอันตรายได้ 

7. อย่าซ่อนตัวในตู้หรือใต้เตียง

การซ่อนตัวไม่ใช่สิ่งที่ควรทำเมื่อตกอยู่ในเหตุไฟไหม้ เพราะการที่คุณซ่อนตัวนั้นไม่ต่างจากการนั่งรอให้ไฟลามมาที่ตัวคุณเลย ไม่เท่านั้นยังเสี่ยงมากที่ตู้ที่คุณหลบอยู่จะเปิดไม่ได้ แล้วทำให้ที่หลบซ่อนนั้นเป็นพื้นที่อันตรายมากสำหรับคุณ

8. อย่าเปิดหน้าต่างในห้องที่มีควันหรือไฟ

การเปิดหน้าต่างในห้องที่มีควันหรือไฟเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้ออกซิเจนไหลเข้าสู่ห้อง ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงให้ไฟลุกลามรุนแรงขึ้น นอกจากนี้ ยังอาจทำให้ควันและความร้อนแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของอาคารได้เร็วขึ้น การปิดประตูและหน้าต่างจะช่วยจำกัดการลุกลามของไฟและควัน ให้เวลาในการอพยพหรือรอความช่วยเหลือมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องแน่ใจว่าไม่มีใครติดอยู่ในห้องนั้นก่อนปิดทางออกทั้งหมด

9. อย่าวิ่งขณะที่ไฟติดตามตัว 

หากไฟติดตัว การวิ่งเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุด เพราะการเคลื่อนไหวเร็วจะทำให้เปลวไฟลุกโชนขึ้นจากกระแสลม เพิ่มความรุนแรงของการไหม้ และอาจทำให้ไฟลามไปยังพื้นที่อื่น เมื่อไฟติดตามตัวให้หยุด นอนลงกับพื้น และกลิ้งตัวไปมาเพื่อดับไฟ (Stop, Drop, and Roll) หรือใช้ผ้าห่มหรือเสื้อคลุมตัวเพื่อขาดออกซิเจน ถ้ามีน้ำใกล้ตัว ให้ราดน้ำลงบนบริเวณที่ไฟติด เพื่อดับไฟ

10. อย่าละเลยการฝึกซ้อมหนีไฟ

อย่าละเลยการฝึกซ้อมหนีไฟ

การฝึกซ้อมหนีไฟเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยควรจัดขึ้นอย่างน้อยทุก 6 เดือนในอาคารสำนักงานและสถานที่สาธารณะ การฝึกซ้อมช่วยให้ทุกคนคุ้นเคยกับเส้นทางหนีไฟ จุดรวมพล และขั้นตอนการอพยพ เมื่อเกิดเหตุจริง ผู้คนจะสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและเป็นระบบ ลดความสับสนและความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บหรือสูญเสียชีวิต นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสในการตรวจสอบอุปกรณ์ฉุกเฉินและปรับปรุงแผนรับมือให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 

สรุปบทความ

10 เรื่องต้องห้ามที่ไม่ควรทำขณะเกิดเหตุไฟไหม้ที่ได้แนะนำไปนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำตามอย่างเคร่งครัด จะได้ลดความเสี่ยงในการเกิดอันตรายจากเพลิงไหม้ ช่วยให้คุณมีความปลอดภัย นอกจากการเรียนรู้วิธีการเอาตัวรอดเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้แล้ว อาคารต่าง ๆ ยังควรมีการติดตั้งระบบ Fire Alarmที่มีประสิทธิภาพสูง เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้จะได้ส่งสัญญาณเตือนผู้ที่อยู่ภายในอาคารให้หนีได้อย่างปลอดภัย หากใช้ระบบที่ไม่ได้มาตรฐานอาจทำให้เสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินจากเหตุไฟไหม้อย่างประเมินค่าไม่ได้เลยทีเดียว

CTA - AEG Blog on website
CTA - AEG Blog Website (3)
CTA - AEG Blog Website (5)

ติดตามหัวข้ออื่น ๆ

รวม 4 ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อราคาทองคำ

รวม 4 ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อราคาทองคำ

By admin.aeginc | 25 ธันวาคม 2023 | ข่าวสารและอัปเดท
Read More

4 ระบบดูแลรักษาความปลอดภัยที่ต้องเตรียมให้พร้อมก่อนเปิดออฟฟิศใหม่

By admin.aeginc | 14 พฤศจิกายน 2022 | ระบบรักษาความปลอดภัย
Read More
เปรียบเทียบการเลือกซื้อตู้เซฟกับเช่าตู้เซฟ แบบไหนดีกว่ากัน

เปรียบเทียบการเลือกซื้อตู้เซฟกับเช่าตู้เซฟ แบบไหนดีกว่ากัน

By admin.aeginc | 3 ตุลาคม 2022 | ข่าวสารและอัปเดท
Read More