ตลาดส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยในปี 2567 แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในช่วง 5 เดือนแรกของปี มูลค่าการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่แท้จริง (ไม่รวมทองคำ) เพิ่มขึ้นถึง 11.24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมนี้ในตลาดโลก
อุตสาหกรรมส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมสำคัญที่สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยอย่างมหาศาล ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2567 สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับเป็นสินค้าส่งออกอันดับที่ 3 ของไทย คิดเป็นสัดส่วนถึง 5.25% ของมูลค่าการส่งออกอัญมณีทั้งหมด สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมนี้ต่อเศรษฐกิจไทย นอกจากนี้ ยังเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างงานและรายได้ให้กับแรงงานฝีมือไทยจำนวนมาก
ในช่วงเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม 2567 มูลค่าการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทย (ไม่รวมทองคำ) อยู่ที่ 3,851.79 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 11.24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การเติบโตนี้เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในตลาดสำคัญอย่างสหรัฐอเมริกา ฮ่องกง และอินเดีย ซึ่งมีการนำเข้าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับจากไทยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2567 สินค้าส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ ทองคำกึ่งสำเร็จรูป เครื่องประดับแท้ พลอยสี เพชร และเครื่องประดับเทียม ซึ่งแต่ละประเภทมีลักษณะเฉพาะและตลาดเป้าหมายที่แตกต่างกัน
ทองคำกึ่งสำเร็จรูปหรือทองคำที่ยังไม่ได้ขึ้นรูป เป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 ของไทยในหมวดอัญมณีและเครื่องประดับ คิดเป็นสัดส่วน 39.09% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด แม้ว่าจะมีมูลค่าลดลง 16.79% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ยังคงเป็นสินค้าที่มีมูลค่าการส่งออกสูงที่สุด โดยราคาทองคำเฉลี่ยในช่วงนี้อยู่ที่ 2,352.1 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ การส่งออกทองคำของไทยได้รับผลมาจากจากความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้นในตลาดโลก โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน
เครื่องประดับแท้เป็นสินค้าส่งออกอันดับ 2 คิดเป็นสัดส่วน 30.62% ของมูลค่าการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับทั้งหมด โดยมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 11.87% เมื่อเทียบกับปีก่อน เครื่องประดับทองเป็นสินค้าหลักในกลุ่มนี้ โดยมีการเติบโต 10.48% ตลาดสำคัญได้แก่ สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง อิตาลี และกาตาร์ ส่วนเครื่องประดับเงินมีการเติบโตสูงถึง 24.51% โดยมีตลาดหลักคือสหรัฐอเมริกา เยอรมนี อินเดีย และสหราชอาณาจักร
พลอยสีเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 3 คิดเป็นสัดส่วน 15.25% ของมูลค่าการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับทั้งหมด โดยมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 11.74% เมื่อเทียบกับปีก่อน สินค้าหลักในกลุ่มนี้คือพลอยเนื้อแข็งเจียระไน (ทับทิม แซปไฟร์ และมรกต) ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 9.47% ตลาดสำคัญได้แก่ ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ และฝรั่งเศส ส่วนพลอยเนื้ออ่อนเจียระไนมีการเติบโต 5.90% โดยมีตลาดหลักคือ ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และอินเดีย
พลอยสีเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 3 คิดเป็นสัดส่วน 15.25% ของมูลค่าการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับทั้งหมด โดยมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 11.74% เมื่อเทียบกับปีก่อน สินค้าหลักในกลุ่มนี้คือพลอยเนื้อแข็งเจียระไน (ทับทิม แซปไฟร์ และมรกต) ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 9.47% ตลาดสำคัญได้แก่ ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ และฝรั่งเศส ส่วนพลอยเนื้ออ่อนเจียระไนมีการเติบโต 5.90% โดยมีตลาดหลักคือ ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และอินเดีย
พลอยสีเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 3 คิดเป็นสัดส่วน 15.25% ของมูลค่าการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับทั้งหมด โดยมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 11.74% เมื่อเทียบกับปีก่อน สินค้าหลักในกลุ่มนี้คือพลอยเนื้อแข็งเจียระไน (ทับทิม แซปไฟร์ และมรกต) ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 9.47% ตลาดสำคัญได้แก่ ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ และฝรั่งเศส ส่วนพลอยเนื้ออ่อนเจียระไนมีการเติบโต 5.90% โดยมีตลาดหลักคือ ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และอินเดีย
ตลาดส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยนั้น เป็นตลาดที่ยังมีช่องว่างในการเติบโตมาก และมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับของโลกได้ เพราะประเทศไทยมีความได้เปรียบในการเป็นผู้นำของอุตสาหกรรมนี้
เนื่องจากประเทศที่เป็นผู้ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับใหญ่ ๆ ของโลก ซึ่งเป็นคู่แข่งของไทย ยังคงได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่าง ๆ อยู่ ไม่ว่าจะเป็น สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างจีนและฮ่องกง หรือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในอินเดียอย่างรุนแรง เป็นต้น
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทยยังคงเป็นคนไทย และเป็นธุรกิจ SMEs ที่มีชาวต่างชาติเข้ามายุ่งเกี่ยวน้อยมาก จึงนับเป็นอุตสาหกรรมของคนไทยที่สามารถช่วยสร้างรายได้และเพิ่มการจ้างงานให้กับคนในประเทศได้อย่างแท้จริง
อีกทั้งช่างฝีมือไทยยังเป็นช่างที่มีความชำนาญสูง มีทักษะงานฝีมือขั้นสูงที่เป็นเอกลักษณ์ และเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วโลก จึงมั่นใจได้เลยว่าสินค้าอัญมณีของไทยจะเป็นสินค้าที่มีคุณภาพสูงไม่แพ้ประเทศอื่น ๆ และเป็นที่ต้องการของคนทั่วโลกอย่างแน่นอน
จะเห็นได้ว่า ตลาดส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยเป็นอีกหนึ่งธุรกิจมูลค่าสูงที่มีความน่าสนใจอย่างมาก เพราะมีช่องว่างในการเติบโตสูง เป็นตลาดที่ใหญ่ และมีส่วนแบ่งทางการตลาดค่อนข้างมาก ซึ่งทาง AEG เองก็พร้อมที่จะช่วยคุณประกอบธุรกิจมูลค่าสูงนี้ให้ประสบความสำเร็จ โดยการช่วยลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อธุรกิจได้ ไม่ว่าจะเป็นการสูญหาย การถูกโจรกรรม หรือการประสบอุบัติเหตุ ด้วยบริการประกันภัยอัญมณี ทอง และทรัพย์สินมูลค่าสูง และประกันภัยเพื่อการขนส่งสินค้ามูลค่าสูง โดยไม่จำกัดวงเงิน ออกกรมธรรม์โดยตลาดประกันที่ใหญ่ที่สุดในลอนดอน มีความน่าเชื่อถือระดับโลก รับรองว่าไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน