เมื่อพูดถึงอุปกรณ์ที่ใช้เก็บสิ่งของมีค่าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องประดับ อัญมณี ทองคำ หรือเอกสารสำคัญต่าง ๆ “ตู้เซฟ” นับเป็นสิ่งแรก ๆ ที่คนจะนึกถึง เพราะเป็นตู้ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเก็บรักษาสิ่งของมีค่าโดยเฉพาะ มีความแข็งแรงสูง ทนทานต่อการงัด การแงะ หรือการถูกไฟไหม้ พร้อมมีระบบป้องกันแบบยืนยันตัวตนก่อนที่จะเปิดตู้ออก เช่น รหัสผ่าน สมาร์ตการ์ด กุญแจ หรือการสแกนนิ้วมือ เป็นต้น
การใช้งานตู้เซฟในปัจจุบันนั้น จะแบ่งเป็น 2 รูปแบบหลัก ๆ ก็คือ การเลือกซื้อตู้เซฟมาไว้ใช้ที่บ้าน กับการใช้บริการเช่าตู้เซฟกับบริษัทเอกชน หรือธนาคารที่มีความเชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัยโดยเฉพาะ แล้วทั้งสองแบบนี้มีข้อดี – ข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร AEG จะพาคุณไปหาคำตอบ
การเลือกซื้อตู้เซฟมาไว้ใช้ที่บ้าน กับการใช้บริการเช่าตู้เซฟ มีข้อดี – ข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนี้
การเลือกซื้อตู้เซฟมาไว้ใช้ที่บ้านจะมีความสะดวกสบายในการใช้งานมากกว่า เพราะไม่จำเป็นต้องเดินทางไปยังสถานที่ที่ให้บริการเช่าตู้เซฟทุกครั้ง นับเป็นหนึ่งในข้อดีที่เห็นได้ชัดที่สุดในการซื้อตู้เซฟมาไว้ใช้เอง
อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้บริการเช่าตู้เซฟกับบริษัทเอกชนที่มีที่ตั้งใกล้บ้าน หรือตั้งอยู่ใจกลางตัวเมือง สามารถเดินทางได้อย่างสะดวก ก็สามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ โดยบริการเช่าห้องนิรภัยและตู้เซฟของ AEG ตั้งอยู่ใจกลางย่านสีลม พร้อมมีระยะเวลาเปิดให้บริการที่ยาวนาน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 19.00 น. รับรองว่าใช้งานได้อย่างสะดวกสบายแน่นอน
ในด้านของค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษานั้น การเลือกซื้อตู้เซฟไว้ใช้เองในบ้านจะมีค่าใช้จ่ายที่มากกว่า เพราะสิ่งของมีค่าที่เก็บไว้ในตู้เซฟบางชนิด อาจจำเป็นที่จะต้องรักษาระดับอุณหภูมิให้เหมาะสมอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพ อีกทั้งยังต้องหมั่นตรวจเช็กและซ่อมบำรุงตู้เซฟให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างสม่ำเสมอ ในขณะที่การใช้บริการเช่าตู้เซฟจะรวมค่าบำรุงรักษาอยู่ในค่าบริการแล้ว
การใช้บริการเช่าตู้เซฟจะมีความสามารถในการรักษาความปลอดภัยมากกว่าการเลือกซื้อตู้เซฟไว้ใช้ที่บ้านอยู่แล้ว เพราะผู้ให้บริการห้องนิรภัยและตู้เซฟจะมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด พร้อมระบบดูแลรักษาความปลอดภัย และทีมงานเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ในขณะที่การเก็บตู้เซฟไว้ในบ้านจะไม่มีการดูแลในส่วนนี้
ยกตัวอย่างการใช้งานห้องนิรภัยและตู้เซฟของ AEG ที่มีการป้องกันแบบยืนยันตัวตนถึง 4 ขั้นตอน ได้แก่ การป้องกันแบบยืนยันตัวตนทั่วไป ได้แก่ สแกนบัตรที่ทางเข้า และสแกนบัตรครั้งที่ 2 เพื่อเข้าสู่โซนห้องนิรภัย และการป้องกันแบบยืนยันตัวตนทางชีวภาพ (Biometric) ได้แก่ สแกนลายนิ้วมือ และสแกนเส้นเลือด ซึ่งไม่สามารถปลอมแปลงตัวตนได้ จึงการันตีได้เลยว่าสิ่งของมีค่าของคุณจะปลอดภัยอย่างแน่นอน
ในด้านความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานนั้น การเลือกซื้อตู้เซฟไว้ที่บ้านจะมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า เพราะการเช่าตู้เซฟกับบริษัทเอกชนและธนาคารจะต้องมีพนักงานติดตามเข้าไปใช้บริการด้วย อย่างไรก็ตาม ที่ AEG เราให้ความสำคัญในด้านความเป็นส่วนตัวสูงสุด ลูกค้าสามารถใช้งานตู้เซฟได้โดยที่ไม่ต้องมีพนักงานติดตาม จึงมั่นใจได้เลยว่าจะได้รับความเป็นส่วนตัวอย่างแน่นอน
หากคุณต้องการการรับประกันความปลอดภัย การเลือกซื้อตู้เซฟไว้ที่บ้านอาจไม่ได้ตอบโจทย์ในส่วนนี้ เพราะส่วนใหญ่จะมีแค่การรับประกันอายุการใช้งานของตู้เซฟเท่านั้น ในขณะที่การใช้บริการเช่าตู้เซฟมักจะมีประกันภัยสิ่งของมูลค่าสูงที่คุ้มครองทรัพย์สินที่ฝากอยู่ในเซฟควบคู่มาด้วย ซึ่งจะช่วยลดการสูญเสียเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดกับทรัพย์สินที่ฝาก รวมไปถึงช่วยให้ผู้เช่าที่ฝากทรัพย์สินได้รับความมั่นใจมากยิ่งขึ้นว่าทรัพย์สินที่ฝากไว้จะไม่เสียหายแบบสูญเปล่าไปอย่างแน่นอน
สำหรับใครที่สนใจใช้บริการเช่าห้องนิรภัยและตู้เซฟกับ AEG นั้น จะสามารถซื้อประกันทรัพย์สินภายในตู้เซฟเพิ่มเติมได้ มีวงเงินประกันสูงสุดถึง 100 ล้านบาท ออกกรมธรรม์จากตลาดประกันที่ใหญ่ที่สุดในลอนดอนที่มีความน่าเชื่อถือระดับโลก การันตีด้วยเรตติ้งเครดิตที่ AA- ติดต่อมากกว่า 20 ปี
จะเห็นได้ว่า การเลือกซื้อตู้เซฟไว้ที่บ้านกับการใช้บริการเช่าตู้เซฟ จะมีข้อดี – ข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป หากคุณต้องการเก็บสิ่งของที่ไม่ได้มีมูลค่าสูงมากนัก การเก็บรักษาด้วยตู้เซฟที่บ้านก็อาจจะตอบโจทย์มากกว่า อย่างไรก็ตาม หากสิ่งของที่ต้องการเก็บรักษามีมูลค่าที่สูงมาก จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างดี การใช้บริการเช่าตู้เซฟกับผู้ให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัยก็นับเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์มากกว่านั่นเอง