รวมเรื่องต้องรู้เกี่ยวกับเครื่องทาบบัตร

การวางระบบควบคุมการเข้า – ออกทางประตูอัตโนมัติ (Access Control System) ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ คัดกรองคนด้วยระบบป้องกันแบบยืนยันตัวตนอย่างแม่นยำ รวมถึงบันทึกข้อมูลเวลาเข้า – ออกงานของพนักงานอย่างสม่ำเสมอ เป็นตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบดูแลรักษาความปลอดภัย และช่วยให้การจัดการพนักงานในองค์กรเป็นไปอย่างสะดวกมากขึ้น

ในบทความนี้ AEG จะพาไปทำความรู้จักกับ “เครื่องทาบบัตร” หนึ่งในระบบป้องกันแบบยืนยันตัวตนที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน สามารถนำมาใช้ควบคู่กับระบบควบคุมการเข้า – ออกทางประตูอัตโนมัติได้ จะน่าสนใจแค่ไหนนั้น ไปดูกันเลย

เครื่องทาบบัตร คืออะไร?

เครื่องทาบบัตร หรือที่เรียกว่า เครื่องอ่านบัตร หรือเครื่องสแกนบัตร เป็นอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่ใช้งานคู่กับสมาร์ตการ์ด หรือคีย์การ์ด สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายรูปแบบ เช่น ใช้เป็นเครื่องบันทึกเวลาเข้า – ออกงานของพนักงาน หรือนำมาใช้ควบคู่กับระบบควบคุมการเข้า – ออกทางประตูอัตโนมัติ เพื่อทำเป็นระบบป้องกันแบบยืนยันตัวตนในการคัดกรองบุคคลเข้าพื้นที่ต่าง ๆ เป็นต้น

ข้อดีของการใช้เครื่องทาบบัตร

เครื่องทาบบัตรมีข้อดีหลายประการ ดังนี้

• สามารถคัดกรองคนนอก และควบคุมการเข้า – ออกสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• บัตรคีย์การ์ดทำซ้ำได้ยากกว่าลูกกุญแจที่สามารถนำไปปั้มได้เลย
• สามารถนำมาใช้บันทึกข้อมูลการทำงานของพนักงานได้
• ช่วยให้คนจำนวนมากสามารถเข้าออกประตูเดียวกันได้ โดยที่ไม่ต้องพกกุญแจให้ยุ่งยาก

รูปแบบการใช้งานของเครื่องทาบบัตรที่ใช้ในระบบ Access Control

เครื่องอ่านบัตรที่นำมาใช้ในระบบ Access Control สามารถตั้งค่าการใช้งานได้ 3 รูปแบบหลัก ๆ ดังนี้

1. เครื่องบันทึกเวลา (Time Attendance)

ใช้สำหรับบันทึกข้อมูลการทำงานของพนักงาน ทั้งเวลาเข้างานและเวลาออกงาน ซึ่งจะช่วยให้องค์กรสามารถจัดการงานบริหารบุคคลได้มีประสิทธิภาพและแม่นยำมากยิ่งขึ้น เครื่องอ่านบัตรที่ใช้บันทึกเวลานั้น จะเหมาะสำหรับสำนักงาน หรือโรงงานที่มีพนักงานเป็นจำนวนมาก โดยจะนิยมใช้บัตรคีย์การ์ดแบบแข็ง เพราะจะมีรูสำหรับใส่สายคล้องคอเพื่อใช้เป็นบัตรพนักงานได้

2. เครื่องควบคุมประตู (Access Control)

ใช้สำหรับควบคุมการเข้า – ออกสถานที่ที่ต้องการรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น บ้าน โรงแรม โรงพยาบาล ห้องสมุด หรือห้องนิรภัย โดยจะทำงานร่วมกับกลอนแม่เหล็กไฟฟ้า หรือเครื่องกั้นทางเดินต่าง ๆ เช่น เครื่องกั้นแบบปีกผีเสื้อ (Flap Barrier) เครื่องกั้นแบบปีกสวิง (Swing Barrier) เครื่องกั้นแบบหมุน 3 ก้าน ( Tripod Turnstile ) หรือเครื่องกั้นคนแบบหมุนเต็มตัว ( Full Height Turnstile ) เป็นต้น ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้คนนอกสามารถเข้า – ออกสถานที่โดยไม่ได้รับอนุญาต และช่วยให้สถานที่มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

3. เครื่องบันทึกเวลาและควบคุมประตู (Time attendance and Access Control)

เป็นเครื่องอ่านบัตรที่ตั้งค่ารูปแบบการใช้งานให้สามารถบันทึกเวลา และควบคุมการเข้า – ออกในเครื่องเดียว เป็นรูปแบบการใช้งานเครื่องอ่านบัตรที่นิยมมากที่สุด เพราะสามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องอ่านบัตรได้สูงสุด ซึ่งจะช่วยให้สามารถจัดการงานบริหารบุคคลและวางระบบรักษาความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกที่สุด

ชนิดของคีย์การ์ดที่ใช้กับเครื่องทาบบัตร

คีย์การ์ดที่นิยมนำมาใช้งานกับเครื่องอ่านบัตรจะมีอยู่ 3 ชนิดหลัก ๆ ดังนี้

• Proximity Card : มีคลื่นความถี่ที่ 125 KHz และต้องนำบัตรไปทาบกับเครื่องอ่านบัตรเพื่ออ่านข้อมูล เช่น บัตร BTS บัตร MRT คีย์การ์ดคอนโด อพาร์ทเม้นท์ หรือประตูบ้าน โดยจะมีให้เลือกใช้งานหลายรูปแบบ เช่น บัตรบาง บัตรหนา และแบบพวงกุญแจ (Key Tag)
• Mifare Card : มีคลื่นความถี่ที่  13.56 MHz และสามารถอ่านข้อมูลได้โดยที่ไม่ต้องสัมผัสเครื่องอ่านบัตร แต่จะต้องอยู่ใกล้ ๆ กับเครื่องอ่านบัตร ไม่เกิน 10 เซนติเมตร
• UHF Card​ : เป็นบัตรที่มีคลื่นความถี่สูงที่สุดถึง 860-960 MHz ทำให้มีระยะการอ่านบัตรไกลที่สุด นิยมนำมาใช้ในการควบคุมการเข้า – ออกรถยนต์ เช่น ลานจอดรถ ทางด่วน ทางเข้าหมู่บ้าน หรือคอนโด เป็นต้น

ควรเลือกซื้อเครื่องทาบบัตรยี่ห้อไหนดีถึงจะมีความคุ้มค่ามากที่สุด

สำหรับคำถามที่ว่าควรเลือกซื้อเครื่องทาบบัตรยี่ห้อไหนดีนั้น จะขึ้นอยู่กับเป้าหมายในการใช้งานเป็นหลัก หากต้องการใช้งานกับประตูบ้านที่ไม่ต้องใช้คีย์การ์ดมาก การใช้งานเครื่องอ่านบัตรทั่วไปก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าต้องการนำมาใช้ในงานสำนักงานที่ต้องคัดกรองคนจำนวนมาก ก็จำเป็นที่จะต้องประเมินปัจจัยต่าง ๆ เช่น จำนวนบัตรทั้งหมดที่เครื่องอ่านบัตรสามารถบันทึกได้ ฟังก์ชันในการบันทึกเวลา หรือวิธีการดึงข้อมูลจากเครื่องอ่านบัตร เพราะเครื่องอ่านบัตรแต่ละยี่ห้อจะมีความสามารถที่แตกต่างกันออกไป

เปรียบเทียบเครื่องทาบบัตรกับระบบสแกนนิ้วมือ ระบบสแกนใบหน้า และระบบสแกนเส้นเลือด

นอกจากระบบคีย์การ์ดที่ใช้งานร่วมกับเครื่องอ่านบัตรแล้ว ยังมีระบบ Access Control อื่น ๆ ด้วย เช่น ระบบสแกนนิ้วมือ ระบบสแกนใบหน้า และระบบสแกนเส้นเลือด ซึ่งแต่ละระบบจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ดังนี้

• ระบบสแกนลายนิ้วมือ : มีความปลอดภัยสูง สามารถปลอมแปลงได้ยากมาก ๆ สะดวกต่อการใช้งาน ไม่ต้องพกคีย์การ์ดให้ยุ่งยาก และสามารถใช้ได้ทุกเพศทุกวัย เหมาะสำหรับบ้าน ที่อยู่อาศัย และสำนักงานขนาดเล็ก – กลาง
• ระบบสแกนใบหน้า : มีข้อดีตรงที่สามารถยืนยันตัวตนได้อย่างรวดเร็ว และหลีกเลี่ยงการสัมผัสอุปกรณ์ยืนยันตัวตนได้ เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีคนใช้งานเป็นประจำจำนวนมาก และต้องการรักษาความสะอาดเป็นพิเศษ เช่น โรงงานอุตสาหกรรมการผลิตต่าง ๆ
• ระบบสแกนเส้นเลือด : เหมาะสำหรับสถานที่ที่ต้องการความปลอดภัยขั้นสูงสุด และจำกัดจำนวนคนเข้า – ออก เช่น ห้องนิรภัยธนาคาร หรือพื้นที่จัดเก็บสินค้ามูลค่าสูงต่าง ๆ เช่น อัญมณี เครื่องประดับ หรือทองคำ เพราะปลอมแปลงได้ยากและมีคัดกรองได้แม่นยำมากที่สุด

AEG บริการให้คำปรึกษาติดตั้งเครื่องทาบบัตรโดยผู้เชี่ยวชาญด้านระบบรักษาความปลอดภัย

จะเห็นได้ว่า เครื่องทาบบัตรเป็นหนึ่งในระบบ Access Control ที่มีประสิทธิภาพ สามารถนำมาประยุกต์ใช้งานได้กับทุกสถานที่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลรักษาความปลอดภัย สำหรับท่านใดที่สนใจติดตั้งเครื่องอ่านบัตร รวมถึงระบบ Access Control อื่น ๆ อย่าง ระบบสแกนลายนิ้วมือ ระบบสแกนใบหน้า และระบบสแกนเส้นเลือด แต่ยังไม่รู้ว่าจะติดตั้งรูปแบบไหนดีถึงจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด สามารถติดต่อ AEG ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-238-4561 หรือ Line OA : @aeginc.co เรามี AEG Security Specialist พร้อมบริการให้คำปรึกษาการติดตั้งระบบ Access Control ทุกรูปแบบ พร้อมบริการติดตั้งระบบ Access Control และระบบ Electronic Lock ที่สามารถใช้งานร่วมกันได้ มีศูนย์รับแจ้งเหตุและทีมดูแลด้านความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง รับรองว่าไม่มีผิดหวังอย่างแน่นอน